คำนวณว่าคุณจะได้ “กำไร” จาก IIoT เท่าไร?
หลายคนอยากเริ่มทำระบบ IIoT แต่ติดคำถามเดียว…
“จะคุ้มไหม?”
วันนี้เรามีวิธีคิดแบบง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณมองเห็นผลตอบแทนจากการลงทุน IIoT อย่างชัดเจน
ก่อนอื่น… ROI คืออะไร?
ROI (Return on Investment) คืออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน

แล้วระบบ IIoT สร้าง “กำไร” ให้คุณยังไง?
ระบบ IIoT ไม่ได้แค่ “ดูข้อมูล” แต่ช่วยสร้างผลตอบแทนที่วัดเป็นตัวเงินได้จริงผ่านการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดความสูญเสียในทุกจุดของสายการผลิต:
✔️ ลด Downtime
เมื่อเครื่องจักรหยุดทำงาน ระบบ IIoT จะตรวจจับและแจ้งเตือนทันทีผ่าน Dashboard หรือระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เช่น LINE, Email
คุณไม่ต้องรอให้คนเดินไปเช็กหรือรายงานปลายกะอีกต่อไป ส่งผลให้สามารถรีบเข้าแก้ไข ลดเวลาหยุดผลิต และลดการสูญเสียรายได้ในแต่ละนาทีที่เครื่องหยุด
✔️ ลด ของเสีย (NG)
IIoT ช่วยเก็บข้อมูลกระบวนการแบบเรียลไทม์ เช่น อุณหภูมิ, แรงดัน, ความเร็ว ฯลฯ หากค่าผิดจากช่วงที่กำหนด ระบบสามารถแจ้งเตือนหรือหยุดกระบวนการได้อัตโนมัติ ทำให้สามารถจับปัญหาได้ตั้งแต่ต้นทาง ลดการผลิตของเสียซ้ำ ๆ และลดต้นทุนการคัดแยกหรือทำลายชิ้นงาน
✔️ เพิ่ม Output ต่อวัน
เมื่อทีมงานเห็นสถานะเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ จะสามารถปรับจูน/สั่งเดินเครื่องได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอเวลาตรวจสอบหรือรอผู้ตัดสินใจ ทำให้เวลา “หน้างานนิ่ง” น้อยลง ส่งผลโดยตรงต่อจำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้ในแต่ละวัน และช่วยเพิ่มรายได้ทันที
✔️ ลด การซ่อมฉุกเฉิน
IIoT ช่วยเก็บข้อมูลพฤติกรรมเครื่องจักร เช่น รอบการทำงาน อุณหภูมิ มอเตอร์กินกระแส ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ล่วงหน้า ทำให้สามารถวางแผนบำรุงรักษาได้ก่อนที่เครื่องจะเสียจริง ลดค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และลดความเสี่ยงจากการหยุดผลิตกะทันหัน
✔️ ลด แรงงานซ้ำซ้อน
งานที่เคยต้องใช้แรงงานคนจดบันทึก หรือรายงานตัวเลขต่าง ๆ เช่น จำนวนผลิต, เวลาเครื่องเดิน-หยุด ฯลฯ สามารถให้ระบบ IIoT เก็บข้อมูลให้อัตโนมัติ ข้อมูลถูกรวบรวมและวิเคราะห์ในระบบทันที ลดงานเอกสาร และเปิดโอกาสให้พนักงานได้โฟกัสกับงานที่สร้างมูลค่าจริง
ต้องรู้อะไรก่อนคำนวณ ROI จาก IIoT?
ก่อนจะรู้ว่า “ระบบ IIoT คุ้มค่ากับโรงงานของคุณหรือไม่” สิ่งสำคัญคือ คุณต้องรู้ต้นทุน และรู้ว่าคุณจะได้อะไรกลับมา
1. ค่าอุปกรณ์ (Hardware & Infrastructure)
รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้ในระบบ IIoT เช่น
- Sensor: วัดอุณหภูมิ, ความดัน, ระยะ, กระแส ฯลฯ
- Gateway / Edge Device: ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลจากเครื่องจักรสู่ Cloud
- Network: อุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น Switch, Router, สายสัญญาณ
- Cloud / Server: ค่าบริการ Cloud รายเดือน หรือค่าเครื่อง Server หากใช้ในองค์กร
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นต้นทุนตั้งต้นที่ควรถูกคำนวณให้ครบถ้วน
2. ค่าแรงติดตั้ง + ค่า Software + การฝึกอบรม
ค่าติดตั้งและ Setup ระบบ เช่น เดินสาย, Mapping I/O, ตั้งค่าระบบ
ค่า Software / License / Dashboard ที่ใช้แสดงผลหรือประมวลผลข้อมูล
ค่าอบรมพนักงาน (Training) ให้ใช้งานระบบได้จริง
จุดนี้มักถูกมองข้าม แต่เป็นต้นทุนที่ต้องใส่ไว้ในแผน ROI เช่นกัน
3. ข้อมูลปัจจุบันของโรงงาน
เพื่อคำนวณว่า IIoT จะช่วยลดต้นทุนได้เท่าไร คุณต้องรู้สถานการณ์ปัจจุบัน เช่น
Downtime เฉลี่ยต่อเดือน (กี่นาที/กี่ชั่วโมง/คิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่)
จำนวนของเสีย (NG) และมูลค่าที่เสียไป
เวลาที่ใช้ในกระบวนการที่ยังเป็น Manual เช่น จดบันทึก, ตรวจสอบเครื่อง
ยิ่งคุณรู้ต้นทุนที่ “สูญเสีย” ชัดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นผลตอบแทนจาก IIoT ชัดขึ้นเท่านั้น
4. มูลค่าการผลิตเฉลี่ยต่อวัน / ต่อเดือน เช่น
1 วันผลิตได้กี่ชิ้น
1 ชิ้นมีมูลค่าเท่าไร
ถ้าเพิ่มประสิทธิภาพ 5% จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกี่บาท
ตัวเลขเหล่านี้ใช้เป็นฐานในการคำนวณว่าการลด Downtime หรือเพิ่ม Output มีผลต่อรายได้โดยตรงแค่ไหน
การมีข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วน จะช่วยให้คุณสามารถใช้ IIoT ROI Calculator ได้อย่างแม่นยำ และมองเห็นภาพชัดเจนว่าการลงทุนในระบบ IIoT จะ คืนทุนเมื่อไร และสร้าง กำไรระยะยาว ให้โรงงานของคุณอย่างไร
สนใจสอบถามเพิ่มเติม:
Metro Systems Corporation Plc.
บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โทร: 02-089-4145 (จ-ศ 8.30 – 17.00 น.)
Our writer
ทศวรรษ กิจศิริเจริญชัย (ตาม)
IoT Specialist
Metro Systems Corporation Plc.